[NotebookLM] - RAMA Quality Conference 2024 - focus on two speakers (1)

 Original Video: https://www.facebook.com/Rama.QualityDevelopment/videos/863721205346260

ฟังจบมานานแล้ว ว่าจะเอามาเขียนสรุปเพราะตั้งไว้อยู่ในสำคัญแต่ไม่รีบ ตอนนี้ AI มีแล้ว ก็ใช้ซะหน่อย

แหล่งข้อมูลเหล่านี้เป็นคำกล่าวของศาสตราจารย์นายแพทย์ปิยมิตร ศรีธรา รักษาการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหิดล ซึ่งได้กล่าวถึงความสำคัญของการบูรณาการ คุณภาพ และ นวัตกรรม ในองค์กร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบริบทของโรงพยาบาลรามาธิบดี ท่านเน้นย้ำว่าทั้งสองสิ่งนี้มีความเชื่อมโยงกันอย่างใกล้ชิดและจำเป็นต่อการพัฒนาที่ยั่งยืน การนำเสนอครอบคลุมตัวอย่างนวัตกรรมทางการแพทย์มากมายที่รามาธิบดีได้พัฒนาขึ้น รวมถึงการใช้ AI ในการวินิจฉัยและการรักษา และยังชี้ให้เห็นถึงแนวคิดในการดูแลสุขภาพที่เปลี่ยนไป โดยเน้นที่การป้องกันและส่งเสริมสุขภาพ (Wellness) มากกว่าการรักษาเพียงอย่างเดียว นอกจากนี้ ยังมีการกล่าวถึงแผนการสร้างศูนย์นวัตกรรมและสิ่งอำนวยความสะดวกใหม่ๆ เพื่อส่งเสริมการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีทางการแพทย์ในอนาคต โดยสรุปคือเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการปรับตัวและสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ เพื่อให้เกิดประโยชน์ที่แท้จริงต่อผู้ป่วยและสังคมโดยรวม

สรุปประเด็นสำคัญและแนวคิดหลักจากปาฐกถา "บูรณาการกระบวนการทำงานด้วยมิติคุณภาพ เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน สู่การเป็นองค์กรแห่งนวัตกรรม"

ปาฐกถาโดย ศาสตราจารย์ นายแพทย์ ปิยมิตร ศรีธรา รักษาการแทนอธิการบดี มหาวิทยาลัยมหิดล และคณบดีคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี ได้นำเสนอแนวคิดสำคัญเกี่ยวกับการบูรณาการ "คุณภาพ" และ "นวัตกรรม" เพื่อขับเคลื่อนองค์กรไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน และการเป็นองค์กรแห่งนวัตกรรมอย่างแท้จริง โดยมีประเด็นและแนวคิดหลักดังนี้:

1. การเชื่อมโยงระหว่าง "คุณภาพ" และ "นวัตกรรม"

ศ.นพ. ปิยมิตร ศรีธรา เน้นย้ำว่า คุณภาพและนวัตกรรมเป็นสิ่งที่สัมพันธ์กันอย่างใกล้ชิด เปรียบเสมือน "หยินกับหยาง" ที่ต้องไปด้วยกันเสมอ

  • คุณภาพ (Quality): หัวใจสำคัญคือ "Standard" หรือมาตรฐาน การทำงานตามมาตรฐานที่กำหนดไว้ เช่น HA, Advance HA, JCI สำหรับการรักษาพยาบาล หรือ Speex สำหรับการศึกษา เพื่อให้เกิดความน่าเชื่อถือและความน่าไว้วางใจ “ถ้าเราถามว่าคีย์เวิร์ดของคุณภาพคืออะไร จริงๆ ก็คือ Standardด คือการทำ งานให้มีมาตรฐาน มาตรฐานต่างๆ ก็ถูกกำหนดไว้มากมาย”
  • นวัตกรรม (Innovation): คือการสร้าง "สิ่งใหม่ที่ดีกว่าเดิม" เพื่อขับเคลื่อนการเติบโต (drive growth) และเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน (competitiveness) โดยที่การแข่งขันนี้ไม่ได้หมายถึงการเอาชนะผู้อื่นในทางลบ แต่เป็นการแข่งขันเพื่อพัฒนาบริการและนวัตกรรมให้ดีขึ้น “คีย์เวิร์ดของนวัตกรรมเอาจริง จริงเนี่ย ก็คือเรื่องของการที่ทำ ให้เกิดเกิดสิ่งใหม่ที่ดีกว่าเดิม”
  • ความสัมพันธ์: “ถ้าเราทำงานคุณภาพโดยไม่มีนวัตกรรมเนี่ย เราจะซอยเท้า ย่ำอยู่กับที่มันไม่มีทางที่จะเป็นอย่างเดิมได้ไปตลอด” การพัฒนาคุณภาพอย่างต่อเนื่อง (CQI หรือ Kaizen) เป็นพื้นฐานที่นำไปสู่การสร้างสิ่งใหม่ที่ดีกว่าเดิม หากไม่มีนวัตกรรม คุณภาพจะหยุดนิ่งไม่ก้าวหน้า ตัวอย่างเช่น วิวัฒนาการของการผ่าตัดที่ก้าวหน้าอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน ซึ่งดีกว่าอดีตมาก

2. นวัตกรรมกับการเปลี่ยนแปลงของโลก

ปาฐกถาชี้ให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเข้ามาของ AI ซึ่งเปรียบเสมือน "กระแสไฟฟ้าอันใหม่" ที่จะเข้ามาเปลี่ยนโลกในอีก 5 ปีข้างหน้าอย่างมหาศาล

  • AI (Artificial Intelligence) / IA (Intelligent Amplification): AI จะเข้ามามีบทบาทในทุกส่วนของการทำงาน ไม่ใช่แค่การทำงานแบบอัตโนมัติ แต่เป็นการขยายขีดความสามารถของมนุษย์ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น (Intelligent amplification) “เราไม่ อยากเรียก AI อย่างเดียวเราเรียก IA คือการเอา AI เนี่ย มาช่วยในทุกส่วน แล้วเกิด Intelligent amplification ทำ ให้เกิด ขยายผล”
  • การปรับตัว: บุคลากรต้องพัฒนาความรู้และทักษะให้สอดรับกับเทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น การใช้ Midjourney, CoPilot, ChatGPT, หรือ Sora AI เพื่อไม่ให้ "ตกยุค"

3. ตัวอย่างนวัตกรรมและโครงการสำคัญของรามาธิบดีและมหิดล

มีการยกตัวอย่างนวัตกรรมที่รามาธิบดีและมหาวิทยาลัยมหิดลได้ริเริ่มและพัฒนาขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม:

  • การศึกษา: การพัฒนานวัตกรรมการเรียนการสอนกายวิภาคศาสตร์ใน Cyber Space และ Virtual Reality ที่จักรีนฤบดินทร์ ซึ่งเป็นแห่งแรกๆ ของโลก
      • การวินิจฉัยและรักษา:Genomic Medicine: การศึกษา Genomic เพื่อคัดกรองความเสี่ยงโรค NCD และ Farmagenomic เพื่อลดความเสี่ยงการแพ้ยา โดยมีการตั้ง "ศูนย์ Genomic" ที่โรงเรียนเรวดีเดิม และมีบริการเชิงพาณิชย์แล้ว 10 อย่าง
      • Proton Therapy: ความสนใจในการนำเทคโนโลยีโปรตอนมาใช้ในการรักษาโรคมะเร็ง เพื่อลดผลกระทบต่อเนื้อเยื่อข้างเคียง โดยมีแผนจะติดตั้งเครื่องภายใน 2 ปี และแบ่งปันทรัพยากรกับโรงพยาบาลในเครือข่ายย่านโยธี (YMID)
      • Advanced Therapeutic Medicinal Products (ATMP): การวิจัยและพัฒนาการรักษาแนวใหม่โดยใช้เซลล์ เช่น การสร้างกระดูกใหม่ด้วย Mesenchymal stem cell และการพัฒนา CAR T-cell เพื่อรักษามะเร็ง ซึ่งนำไปสู่การก่อตั้งบริษัทที่มีมูลค่าสูง
      • Gene Therapy สำหรับ Parkinson’s Disease: ความร่วมมือ 3 โรงเรียนแพทย์ (จุฬาฯ รามาฯ ศิริราช) ในการรักษากลุ่มโรคพาร์กินสันด้วยเทคโนโลยีการฉีด Adeno-associated virus เข้าไปในสมอง
      • Xenotransplantation: การวิจัยนำอวัยวะหมูมาใช้ทดแทนในคน โดยความร่วมมือกับ Betagro และคณะสัตวแพทยศาสตร์ มหิดล
  • Telemedicine: การขยายผล Telemedicine ไปยังพื้นที่ภายนอกโรงพยาบาล เช่น ศูนย์การแพทย์รามาธิบดีที่ราชพฤกษ์และ Paradise Park เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ป่วยและลดความแออัด “การทำ Tele Medicine ซึ่งเกิดความเจริญ เติบโตอย่างรวดเร็วในช่วงโควิด แต่ว่าหลังจากโควิดเราก็ยังไม่ได้ยุติ”
  • Diagnostic X-ray with AI: การนำเครื่อง CT, MRI, Digital X-ray ที่มี AI เข้ามาช่วยในการอ่านผล การจัดคิว และการเลือกโปรโตคอลการตรวจ
  • Wellness & Prevention: การให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพเชิงป้องกัน (Wellness) และการคาดการณ์โรค (Predictive) มากกว่าการรักษาปลายน้ำ “แนวคิดในปัจจุบันเน้นวงสีแดง (Wellness, prevention) มากกว่าวงสีดำ (disease care)” รวมถึงการสนับสนุนให้เกิดพฤติกรรมสุขภาพที่ดีในองค์กร เช่น การเป็นโรงพยาบาลปลอดบุหรี่, การไม่จำหน่ายกาแฟ 3 in 1, และการมีโรงอาหารที่มีเมนูสุขภาพ (“โรงจืด”)
  • Real World Impact: มุ่งเน้นผลกระทบเชิงปฏิบัติ (Real World Impact) ที่ส่งผลต่อสุขภาวะจริงของประชาชน แทนที่จะมุ่งเน้นเพียง Academic Impact หรือ Citation “เราคงจะ ต้องคิดใน Real World Impact มากกว่าเดิมคือให้มันมีผลที่ออกมาสู่สุขภาวะจริงของคน” ตัวอย่างเช่น การสนับสนุนให้ผู้ป่วยระยะสุดท้ายเสียชีวิตที่บ้านอย่างสงบสุข

4. การสร้าง Ecosystem สำหรับนวัตกรรม

คณะแพทยศาสตร์มีบทบาทสำคัญในการสร้างระบบนิเวศ (ecosystem) ที่เอื้อต่อการสร้างนวัตกรรม:

  • พื้นที่สร้างสรรค์: การจัดตั้งพื้นที่ Coworking Space และพื้นที่สร้างนวัตกรรมโดยเฉพาะในอาคารใหม่ YMID โดยมีฐานผู้ป่วย 800 เตียงเป็นจุดเริ่มต้นในการสร้างนวัตกรรม
  • การร่วมมือ: การประสานความร่วมมือระหว่างนักวิทยาศาสตร์ ภาคเอกชน นักวิจัย รวมถึงความร่วมมือข้ามศาสตร์ เช่น วิศวกรรมกับแพทย์
  • กลไกสนับสนุน: การสร้างเวทีประกวดแนวคิด การพัฒนาต้นแบบ (prototype) และการเชื่อมโยงกับภาคธุรกิจเพื่อผลักดันไปสู่การดำเนินการเชิงพาณิชย์
  • การสนับสนุน AI: มหาวิทยาลัยจะสนับสนุนการจัดซื้อ AI ให้บุคลากรเข้าถึงและใช้งานได้จริงในทุกส่วนงาน

5. หลักการขับเคลื่อนนวัตกรรม: Stop, Start, Try

ศ.นพ. ปิยมิตร สรุปแนวคิดการขับเคลื่อนนวัตกรรมอย่างกระชับด้วย 3 หลักการ:

  • Stop (หยุด):
    • หยุดคิดที่จะสร้างสิ่งใหม่เอี่ยมทั้งหมด ให้มองหาสิ่งที่ทำอยู่แล้วและทำให้ดีขึ้น “อย่าไปคิดสร้างอะไรใหม่เอี่ยมขึ้นมา เพราะว่าท่านจะเหนื่อย ท่านน่าจะลองดูว่าอะไรที่ทำ อยู่แล้วท่านจะทำ ให้ดีขึ้นยังไง”
    • หยุดทำในสิ่งที่ไม่เวิร์ค หรือแม้สำเร็จแต่ไม่มีคนนำไปใช้ก็ไร้ประโยชน์
    • หยุดบ่นหรือคร่ำครวญถึงข้อจำกัด
  • Start (เริ่มต้น):
    • เริ่มต้นจากการมองของเก่าและคิดว่าจะทำอย่างไรให้ดีขึ้น ฉลาดขึ้น ประหยัดขึ้น หรือมีผลดีกว่าเดิม
    • คิดการใหญ่ มองการณ์ไกลถึงอนาคต
    • มองหาเทคโนโลยีใหม่ๆ และเปิดกว้าง
  • Try (ทดลอง):ลองใช้กลยุทธ์ใหม่ๆ และกลวิธีที่อาจจะดูไม่ยุ่งยากแต่ได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า

6. ปรัชญาและบทสรุป

  • การปรับตัว (Adaptability): “จริง ๆ ไม่ใช่ speชีสที่แข็งแรงที่อยู่รอด แต่เป็น speชีสที่มีความสามารถในการ adดapt ตัวกับการเปลี่ยน แปลงที่เกิดขึ้น” ชาวรามาธิบดีต้องมีความคล่องตัวในการปรับตัวและสร้างนวัตกรรม
  • Real World Impact: ย้ำถึงพระราชดำรัสของสมเด็จพระราชบิดาว่า "ความสำเร็จที่แท้จริง ไม่ได้อยู่ที่การเรียนรู้ แต่อยู่ที่เราจะเอาความรู้ไปประยุกต์ใช้ให้เป็นประโยชน์ได้อย่างไร" ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดการสร้าง Real World Impact หรือผลลัพธ์ที่เป็นประโยชน์จริงต่อสังคม ไม่ใช่เพียงแค่การตีพิมพ์หรือการจัดอันดับ

โดยสรุป ปาฐกถาครั้งนี้ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการผสานรวมคุณภาพและนวัตกรรมเข้าด้วยกันอย่างแยกไม่ออก โดยมีเทคโนโลยี AI เป็นตัวเร่งสำคัญ และเรียกร้องให้องค์กรและบุคลากรมีการปรับตัว คิดใหม่ ทำใหม่ และมุ่งเน้นการสร้างผลกระทบที่เป็นรูปธรรมต่อสุขภาวะของประชาชนอย่างยั่งยืน.

แนวทางการทบทวนความเข้าใจ: การบูรณาการกระบวนการทำงานด้วยมิติคุณภาพเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนสู่การเป็นองค์กรแห่งนวัตกรรม

คำถามแบบสั้น (Short-Answer Questions)

  1. ศาสตราจารย์ นายแพทย์ ปิยมิตร ศรีธรา เน้นย้ำถึงสองคำหลักสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาองค์กร รามาธิบดีสู่ความสำเร็จคืออะไร และสองสิ่งนี้มีความสัมพันธ์กันอย่างไร?
  2. นวัตกรรมและการพัฒนาคุณภาพมีความเชื่อมโยงกันอย่างไรตามหลัก PDCA (Plan-Do-Check-Act) ที่กล่าวถึงในการบรรยาย?
  3. ยกตัวอย่างนวัตกรรมทางการศึกษาที่รามาธิบดีเป็นผู้นำในการพัฒนา โดยเฉพาะในสาขาวิชากายวิภาคศาสตร์
  4. การนำเทคโนโลยี Genomics มาใช้ที่รามาธิบดีมีส่วนช่วยในการดูแลสุขภาพของคนไทยอย่างไร?
  5. นวัตกรรมด้าน PharmacoGenomics มีบทบาทสำคัญในการลดความเสี่ยงของผู้ป่วยอย่างไร?
  6. การปรับเปลี่ยนพื้นที่ของโรงเรียนเรวดีในอดีตให้เป็นศูนย์ Genomic ในปัจจุบันสะท้อนถึงนวัตกรรมด้านใดของรามาธิบดี?
  7. ยกตัวอย่างนวัตกรรมด้านการวินิจฉัยทางการแพทย์ที่ศูนย์การแพทย์รามาธิบดีศรีอยุธยานำมาใช้ และเทคโนโลยีดังกล่าวมีประโยชน์อย่างไร?
  8. เทคโนโลยี Proton Therapy ที่รามาธิบดีกำลังพิจารณานำเข้ามามีข้อดีอย่างไรเมื่อเทียบกับการฉายรังสีแบบปกติ?
  9. Telemedicine ที่รามาธิบดีพัฒนาขึ้นมาในช่วงโควิด-19 และขยายผลออกไปยังสาขานอกโรงพยาบาล สะท้อนถึงแนวคิดใดในการให้บริการทางการแพทย์?
  10. การเปลี่ยนแปลงแนวคิดจากการเน้น "Academic Impact" ไปสู่ "Real World Impact" มีความหมายอย่างไร และส่งผลต่อการพัฒนานวัตกรรมอย่างไร?

เฉลยคำถามแบบสั้น

  1. ศาสตราจารย์ นายแพทย์ ปิยมิตร ศรีธรา เน้นคำว่า "องค์กรคุณภาพ" และ "องค์กรแห่งนวัตกรรม" ทั้งสองสิ่งนี้สัมพันธ์กันเหมือนหยินกับหยาง คือไปคู่กันเสมอ การทำงานคุณภาพโดยไม่มีนวัตกรรมจะทำให้ย่ำอยู่กับที่ ไม่มีการพัฒนาไปข้างหน้า
  2. ตามหลัก PDCA คำว่า "Check" และ "Act" รอบใหม่คือการพยายามหาสิ่งที่ดีขึ้น หรือทำให้เกิดการพัฒนา ซึ่งสิ่งนี้เองคือนวัตกรรมที่เข้ามาขับเคลื่อนให้การทำงานมีคุณภาพที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่แค่รักษาระดับมาตรฐานเดิมไว้
  3. รามาธิบดีเป็นผู้นำในการพัฒนานวัตกรรมการเรียนการสอนกายวิภาคศาสตร์ใน Cyber Space และ Virtual Reality โดยนำอาจารย์ใหญ่เข้ามาอยู่ใน Cyber Space ซึ่งนักเรียนเป็นกลุ่มแรกๆ ที่ได้ใช้ ถือเป็นนวัตกรรมที่ไม่จำเป็นต้องให้ต่างชาติเป็นผู้นำเสมอไป
  4. การนำเทคโนโลยี Genomics มาใช้ทำให้สามารถคัดกรองคนที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรค NCD และบอกความเสี่ยงของโรคได้แม่นยำยิ่งขึ้น ช่วยในการวินิจฉัยและให้คำตอบด้านพันธุกรรม ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการดูแลสุขภาพระดับประเทศ
  5. นวัตกรรมด้าน PharmacoGenomics หรือจีนแพ้ยา ช่วยให้แพทย์สามารถหลีกเลี่ยงการให้ยาบางชนิด เช่น Allopurinol หรือ Carbamazepine ที่อาจก่อให้เกิดอาการแพ้รุนแรง เช่น Stevens-Johnson Syndrome ทำให้ผู้ป่วยมีความเสี่ยงต่อการแพ้ยาน้อยลง
  6. การปรับเปลี่ยนโรงเรียนเรวดีเป็นศูนย์ Genomic สะท้อนถึงนวัตกรรมด้านการใช้ประโยชน์จากพื้นที่เดิมเพื่อสร้างบริการใหม่ๆ ที่ทันสมัยและเป็นประโยชน์ต่อประชาชน โดยศูนย์นี้ให้บริการศึกษา Genomic ในคนไทยถึง 10 อย่าง และนำข้อมูลมาใช้ในการรักษาพยาบาลจริง
  7. ศูนย์การแพทย์รามาธิบดีศรีอยุธยานำเครื่อง CT, MRI, และ Digital X-ray ที่ฝัง AI เข้ามาใช้ ซึ่งนอกจากจะช่วยในการอ่านผลแล้ว ยังสามารถช่วยจัดคิวและเลือกโปรโตคอลที่เหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ละราย ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในด้าน Diagnostic X-ray
  8. เทคโนโลยี Proton Therapy มีข้อดีคือสามารถทำให้อวัยวะหรือเนื้อเยื่อข้างเคียงได้รับบาดเจ็บน้อยลงกว่าการฉายรังสีธรรมดา ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างมากในการรักษาผู้ป่วยมะเร็ง โดยเฉพาะในบริเวณที่สำคัญและมีความละเอียดอ่อน
  9. Telemedicine ที่ขยายผลไปยังราชพฤกษ์และ Paradise Park สะท้อนถึงแนวคิด "Decentralized medicine" หรือการกระจายการรักษาพยาบาลออกนอกโรงพยาบาลใหญ่ เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในการเข้าถึงบริการสำหรับผู้ป่วยในพื้นที่ต่างๆ
  10. การเปลี่ยนแปลงสู่ "Real World Impact" หมายถึงการให้ความสำคัญกับผลลัพธ์ที่เป็นประโยชน์จริงต่อสุขภาวะของคน ไม่ใช่เพียงตัวเลขการตีพิมพ์หรือการอ้างอิงทางวิชาการ สิ่งนี้ผลักดันให้นวัตกรรมที่สร้างขึ้นสามารถนำไปใช้ได้จริงและก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกในชีวิตประจำวันของผู้คน

คำถามแบบเรียงความ (Essay Questions)

  1. อธิบายแนวคิดเรื่อง "องค์กรคุณภาพ" และ "องค์กรแห่งนวัตกรรม" ตามที่ศาสตราจารย์ นายแพทย์ ปิยมิตร ศรีธรา ได้กล่าวไว้ในบริบทของโรงพยาบาลรามาธิบดี พร้อมยกตัวอย่างประกอบว่ารามาธิบดีได้นำแนวคิดเหล่านี้ไปประยุกต์ใช้อย่างไรในการพัฒนาบริการทางการแพทย์
  2. วิเคราะห์บทบาทของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI/IA) ในการพลิกโฉมอุตสาหกรรมการดูแลสุขภาพในอนาคตอันใกล้ โดยอ้างอิงจากตัวอย่างและแนวคิดที่ผู้บรรยายได้ยกมา เช่น ด้านการวินิจฉัย การเรียนการสอน และการติดตามสุขภาพ
  3. จงอธิบายว่า "Wellness" และ "Prevention" มีความสำคัญอย่างไรต่อทิศทางการดูแลสุขภาพในอนาคต เมื่อเทียบกับแนวคิด "Disease Care" แบบดั้งเดิมที่เน้นการรักษา และรามาธิบดีมีนโยบายหรือกิจกรรมใดที่สนับสนุนแนวคิดใหม่นี้
  4. ผู้บรรยายได้สรุปแนวทางการขับเคลื่อนนวัตกรรมไว้ 3 ประการ คือ "Stop บางอย่าง", "Start บางอย่าง", และ "Try บางอย่าง" จงอธิบายความหมายและยกตัวอย่างประกอบในแต่ละประการว่าแนวคิดเหล่านี้จะช่วยส่งเสริมการสร้างนวัตกรรมในองค์กรได้อย่างไร
  5. อธิบายถึงความสำคัญของการสร้าง "ecosystem" ที่เหมาะสมสำหรับการสร้างนวัตกรรมในคณะแพทยศาสตร์ พร้อมยกตัวอย่างองค์ประกอบของ ecosystem ที่กล่าวถึง และบทบาทของคณะฯ ในการผลักดันให้เกิด "Real World Impact"

อภิธานศัพท์ (Glossary)

  • องค์กรคุณภาพ (Quality Organization): องค์กรที่เน้นการทำงานให้ได้มาตรฐาน (Standard) เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือและความไว้วางใจ ซึ่งมีตัววัดคุณภาพที่หลากหลาย เช่น HA, Advance HA, JCI (สำหรับโรงพยาบาล) หรือ Speex (สำหรับการศึกษา)
  • องค์กรแห่งนวัตกรรม (Innovative Organization): องค์กรที่ขับเคลื่อนด้วยการสร้างสิ่งใหม่ที่ดีกว่าเดิม มีความคิดสร้างสรรค์ และสามารถนำสิ่งใหม่ๆ มาปรับใช้เพื่อการพัฒนาและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน
  • PDCA (Plan-Do-Check-Act): วงจรการบริหารคุณภาพที่ประกอบด้วย การวางแผน (Plan), การปฏิบัติ (Do), การตรวจสอบ (Check), และการปรับปรุงแก้ไข (Act) ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญของการพัฒนาคุณภาพอย่างต่อเนื่องและก่อให้เกิดนวัตกรรม
  • Customer Satisfaction: ความพึงพอใจของลูกค้าหรือผู้รับบริการ ซึ่งเป็นเป้าหมายสำคัญของการเน้นคุณภาพ
  • Drive Growth: การขับเคลื่อนการเติบโตขององค์กร ซึ่งเป็นผลลัพธ์สำคัญของการมีนวัตกรรม
  • Competitiveness: ความสามารถในการแข่งขัน ซึ่งนวัตกรรมช่วยให้องค์กรเหนือกว่าคู่แข่งในการพัฒนาและให้บริการที่ดีขึ้น
  • CQI (Continuous Quality Improvement): การปรับปรุงคุณภาพอย่างต่อเนื่อง
  • Kaizen (ไคเซ็น): หลักการพัฒนาอย่างต่อเนื่องจากญี่ปุ่น โดยเน้นการปรับปรุงเล็กๆ น้อยๆ ในกระบวนการทำงานให้ดีขึ้นตลอดเวลา
  • AI (Artificial Intelligence): ปัญญาประดิษฐ์ เทคโนโลยีที่ทำให้เครื่องจักรเลียนแบบความสามารถในการคิดและเรียนรู้ของมนุษย์
  • IA (Intelligent Amplification): การเพิ่มขีดความสามารถทางปัญญาของมนุษย์ด้วย AI โดยที่ AI ทำหน้าที่เป็นเครื่องมือช่วยเสริมศักยภาพ
  • Cyber Space & Virtual Reality: โลกไซเบอร์และเทคโนโลยีเสมือนจริง ที่ใช้ในการจำลองสภาพแวดล้อมหรือสถานการณ์ต่างๆ เพื่อการเรียนรู้หรือวัตถุประสงค์อื่นๆ
  • Genomic: การศึกษาเกี่ยวกับจีโนมทั้งหมดของสิ่งมีชีวิต รวมถึงโครงสร้าง หน้าที่ และปฏิสัมพันธ์ของยีน ซึ่งมีประโยชน์ในการวินิจฉัย คัดกรองความเสี่ยง และการรักษาโรค
  • NCD (Non-Communicable Diseases): กลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง เช่น โรคหัวใจ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง
  • PharmacoGenomics: การศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างพันธุกรรมของบุคคลกับการตอบสนองต่อยา ซึ่งช่วยให้สามารถเลือกยาที่เหมาะสมและลดความเสี่ยงจากการแพ้ยาได้
  • Stevens-Johnson Syndrome: กลุ่มอาการสตีเวนส์-จอห์นสัน ภาวะแพ้ยาที่รุนแรง ทำให้เกิดรอยโรคที่ผิวหนังและเยื่อบุ
  • Diagnostic X-ray: การวินิจฉัยโรคด้วยการถ่ายภาพรังสีเอ็กซ์
  • Embedded AI: AI ที่ถูกฝังหรือรวมเข้าเป็นส่วนหนึ่งของระบบหรืออุปกรณ์ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการทำงาน
  • Proton Therapy: การรักษาด้วยการฉายรังสีโปรตอน ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่ช่วยให้รังสีทำลายเซลล์มะเร็งได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น โดยลดผลกระทบต่อเนื้อเยื่อข้างเคียง
  • Telemedicine: การแพทย์ทางไกล การให้บริการทางการแพทย์โดยใช้เทคโนโลยีการสื่อสาร เพื่อให้คำปรึกษา วินิจฉัย หรือติดตามอาการผู้ป่วยโดยไม่ต้องเดินทางมาโรงพยาบาล
  • Decentralized Medicine: แนวคิดการกระจายการบริการทางการแพทย์ออกนอกโรงพยาบาลหลัก ไปยังสถานพยาบาลย่อยหรือคลินิกในพื้นที่ต่างๆ เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงบริการได้สะดวกขึ้น
  • Academic Impact: ผลกระทบทางวิชาการที่วัดได้จากจำนวนการตีพิมพ์ผลงานวิจัยในวารสารวิชาการ การอ้างอิงผลงาน (Citation) หรืออันดับของมหาวิทยาลัย (Ranking)
  • Real World Impact: ผลกระทบที่เกิดขึ้นจริงในโลกแห่งความเป็นจริง โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อสุขภาวะและคุณภาพชีวิตของประชาชน
  • Predictive & Prevention: แนวคิดการทำนายและป้องกันโรค โดยเน้นการดูแลสุขภาพเชิงรุกก่อนที่จะเกิดโรค แทนที่จะเน้นการรักษาเมื่อป่วยแล้ว (Disease Care)
  • Wellness: การมีสุขภาวะที่ดีทั้งทางกาย ใจ และสังคม เน้นการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรค
  • IOMT (Internet of Medical Things): อินเทอร์เน็ตของสิ่งของทางการแพทย์ อุปกรณ์ทางการแพทย์ที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเพื่อเก็บข้อมูลสุขภาพและส่งต่อข้อมูล
  • Non-invasive: ไม่ต้องใช้การรุกรานร่างกาย เช่น การตรวจที่ไม่ต้องเจาะเลือดหรือผ่าตัด
  • Midjourney / CoPilot / ChatGPT / Sora AI: ตัวอย่างของเครื่องมือ AI ที่ใช้ในการสร้างภาพ เขียนโค้ด สร้างข้อความ หรือสร้างวิดีโอ
  • Fundoscopy: การตรวจจอประสาทตา โดยใช้กล้องตรวจตา
  • Diabetic Retinopathy: ภาวะแทรกซ้อนของโรคเบาหวานที่มีผลต่อหลอดเลือดในจอประสาทตา
  • Parkinson's Disease: โรคพาร์กินสัน โรคทางระบบประสาทที่ส่งผลต่อการเคลื่อนไหว
  • Calcium Score: ค่าคะแนนแคลเซียมในหลอดเลือดหัวใจ ซึ่งบ่งชี้ความเสี่ยงของโรคหัวใจ
  • Machine Learning: การเรียนรู้ของเครื่องจักร สาขาย่อยของ AI ที่ช่วยให้ระบบเรียนรู้จากข้อมูลได้เองโดยไม่ต้องเขียนโปรแกรมอย่างชัดเจน
  • Reconstruction: การสร้างภาพหรือแบบจำลองขึ้นใหม่จากข้อมูลที่มีอยู่ เช่น การสร้างใบหน้าจากกระดูกที่เสียหาย
  • Non-union fracture: ภาวะกระดูกหักที่ไม่ติดหรือไม่เชื่อมกันตามปกติ
  • Mesenchymal Stem Cell: สเต็มเซลล์เนื้อเยื่อเกี่ยวพัน ซึ่งสามารถพัฒนาไปเป็นเซลล์ชนิดต่างๆ เช่น กระดูก กระดูกอ่อน ไขมัน
  • GMP (Good Manufacturing Practice): หลักเกณฑ์และวิธีการที่ดีในการผลิตยาหรือผลิตภัณฑ์สุขภาพ เพื่อให้มั่นใจในคุณภาพและความปลอดภัย
  • ATMP (Advanced Therapeutic Medicinal Product): ผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ขั้นสูงสำหรับการบำบัดรักษา เช่น ยาที่ทำจากเซลล์หรือยีน
  • CART-Cell Therapy: การรักษาโรคมะเร็งโดยใช้เซลล์ภูมิคุ้มกันของผู้ป่วยเองที่ถูกดัดแปลงพันธุกรรมให้จดจำและทำลายเซลล์มะเร็ง
  • Adeno-Associated Virus (AAV): ไวรัสชนิดหนึ่งที่ถูกดัดแปลงให้สามารถนำยีนหรือสารพันธุกรรมเข้าไปยังเซลล์เป้าหมายเพื่อการรักษาโรค
  • Putamen: บริเวณส่วนลึกของสมองที่เป็นส่วนหนึ่งของ Basal Ganglia มีบทบาทสำคัญในการควบคุมการเคลื่อนไหว ซึ่งมักได้รับผลกระทบในผู้ป่วยพาร์กินสัน
  • Glial Cell: เซลล์เกลีย เซลล์ที่ไม่ใช่เซลล์ประสาท แต่ทำหน้าที่สนับสนุนและปกป้องเซลล์ประสาทในระบบประสาท
  • Xenotransplantation: การปลูกถ่ายอวัยวะหรือเนื้อเยื่อข้ามสายพันธุ์ เช่น จากสัตว์สู่คน
  • KNock-out Gene: การทำให้ยีนบางตัวในสิ่งมีชีวิตไม่ทำงาน
  • Co-working Space: พื้นที่ทำงานร่วมกันที่เปิดโอกาสให้บุคคลหรือทีมจากองค์กรต่างๆ มาทำงานร่วมกันและแลกเปลี่ยนความคิดเห็น
  • Health Science: วิทยาศาสตร์สุขภาพ ครอบคลุมสาขาวิชาที่เกี่ยวข้องกับการดูแลสุขภาพของมนุษย์
  • Biologic & Vaccine: ชีววัตถุและวัคซีน ผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ที่ผลิตจากสิ่งมีชีวิตหรือส่วนประกอบของสิ่งมีชีวิต
  • Drug Discovery: การค้นคว้ายาใหม่
  • Functional Food: อาหารที่นอกจากให้คุณค่าทางโภชนาการแล้ว ยังมีคุณสมบัติเพิ่มเติมที่ส่งเสริมสุขภาพหรือลดความเสี่ยงต่อโรค
  • Ecosystem (ในการสร้างนวัตกรรม): ระบบนิเวศที่เอื้อต่อการสร้างและพัฒนานวัตกรรม ซึ่งรวมถึงการสนับสนุน การเงิน บุคลากร และเครือข่ายความร่วมมือ
  • Prototype: ต้นแบบของผลิตภัณฑ์หรือบริการที่สร้างขึ้นเพื่อทดสอบและปรับปรุงก่อนการผลิตจริง
  • Commercialization: กระบวนการนำผลิตภัณฑ์หรือบริการออกสู่ตลาดเพื่อการค้า
  • Agility: ความคล่องตัว ความสามารถในการปรับตัวและตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
  • Adapt: การปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงหรือสภาพแวดล้อมใหม่
  • Real World Impact: (ซ้ำ, แต่เน้นความสำคัญ) ผลกระทบที่เกิดขึ้นจริงและเป็นประโยชน์ต่อสังคมในวงกว้าง ไม่ใช่แค่ในเชิงวิชาการหรือตัวเลข.


Comments

Popular posts from this blog

Upright Fluorescence Microscope (update 24 Dec 2024)

ZEISS ZEN lite Free Imaging Software for Microscopy (update: 2025-05-21)