[NotebookLM] - RAMA Quality Conference 2024 - focus on two speakers (2)

Original Video: https://www.facebook.com/Rama.QualityDevelopment/videos/863721205346260

ฟังจบมานานแล้ว ว่าจะเอามาเขียนสรุปเพราะตั้งไว้อยู่ในสำคัญแต่ไม่รีบ ตอนนี้ AI มีแล้ว ก็ใช้ซะหน่อย -- สังเกตหลัง ๆ มาชื่อเริ่มสะกดถูก ถ้าข้อมูลมีอยู่ในอินเตอร์เนตมากพอ

แหล่งข้อมูลที่นำเสนอเป็นการบรรยายจาก นายแพทย์ ณรงค์ อภิกุลวณิช เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) โดยเริ่มต้นจากการแนะนำประวัติและประสบการณ์ด้านสาธารณสุขของวิทยากร ก่อนที่จะเข้าสู่หัวข้อหลักเรื่อง "นวัตกรรมในการบริหารจัดการธุรกิจด้านการดูแลสุขภาพ" (Innovative Management in Healthcare Business) อย่างไรก็ตาม วิทยากรได้ปรับประเด็นการบรรยายให้ครอบคลุมถึง "โอกาสและภัยคุกคามต่อระบบสุขภาพของประเทศไทย" (Thailand Opportunities in Healthcare) เพื่อให้ผู้ฟังมองเห็นภาพรวมของสถานการณ์และแนวโน้มที่สำคัญ ทั้งด้านสังคม เศรษฐกิจ เทคโนโลยี และประชากร โดยเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการบูรณาการการทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานต่างๆ เช่น โรงพยาบาล สถาบันการศึกษา และภาคเอกชน เพื่อขับเคลื่อนให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงระบบและสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อประเทศชาติอย่างแท้จริง นอกจากนี้ ยังมีการกล่าวถึงปัญหาสำคัญต่างๆ เช่น ความไม่มั่นคงทางยาในประเทศ และโอกาสทางธุรกิจในอุตสาหกรรมสุขภาพที่ยังไม่ถูกใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่ พร้อมทั้งทิ้งท้ายด้วยคำถามกระตุ้นให้ผู้เข้าร่วมคิดถึงบทบาทของตนเองในการนำ "ปัญญาแห่งแผ่นดิน" มาใช้เพื่อพัฒนาสังคมและประเทศต่อไป

บทสรุป: โอกาสและความท้าทายในการบริหารจัดการนวัตกรรมด้าน Health Care ของประเทศไทย

การบรรยายโดยนายแพทย์ ณรงค์ อภิกุลวณิต เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา ภายใต้หัวข้อ "นวัตกรรม การจัดการ Health Care Business" ได้นำเสนอภาพรวมที่ครอบคลุมถึงสถานการณ์ แนวโน้ม และโอกาสรวมถึงภัยคุกคามต่อระบบสุขภาพของประเทศไทย โดยเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการบริหารจัดการเชิงนวัตกรรมเพื่อรับมือกับความท้าทายต่าง ๆ และใช้ประโยชน์จากโอกาสที่มีอยู่เพื่อสร้าง "Thailand Opportunities in Healthcare"

ธีมหลักและแนวคิดสำคัญ:

1. การเปลี่ยนมุมมองจากการจัดการนวัตกรรม (Management Innovation) สู่การจัดการเชิงนวัตกรรม (Innovative Management): วิทยากรเน้นย้ำว่าสิ่งที่ต้องการนำเสนอไม่ใช่การสร้างนวัตกรรมการบริหารจัดการแบบใหม่ทั้งหมด แต่เป็นการนำแนวคิดการบริหารจัดการแบบปกติมาปรับใช้ในเชิงนวัตกรรม โดยให้ความสำคัญกับการจัดลำดับความสำคัญของปัญหา การวางแผน และการมองหาสิ่งที่สำคัญเร่งด่วนเพื่อลงมือทำทันที และสิ่งที่สำคัญแต่ไม่เร่งด่วนให้วางแผนทำอย่างเป็นระบบ

2. โอกาสและภัยคุกคามต่อระบบสุขภาพของประเทศไทย (Thailand Opportunities/Threats in Healthcare): วิทยากรได้ชี้ให้เห็นถึงปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อระบบสุขภาพของประเทศ ทั้งในมิติทางสังคม (social impact) และเศรษฐกิจ (financial/economic impact) ได้แก่:

  • COVID-19 และ Emerging Infectious Diseases (EID): การระบาดใหญ่ของ COVID-19 เป็นบทเรียนสำคัญที่สะท้อนถึงความจำเป็นในการเรียนรู้และเตรียมความพร้อมรับมือกับโรคอุบัติใหม่ในอนาคต โดยวิทยากรตั้งคำถามว่า "ถ้าในอนาคตอันใกล้ emerging infectious disease eid แบบนี้เกิดขึ้นอีก เราจะนำประสบการณ์เหล่านี้ไปใช้ได้อย่างไร"
  • ความยากจน ความไม่เท่าเทียม ความเหลื่อมล้ำ: ปัญหาเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อการเข้าถึงบริการสุขภาพ และเป็นสาเหตุสำคัญของความขัดแย้งทางสังคม
  • Climate Change และมลพิษ: การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและปัญหามลพิษเป็นภัยคุกคามที่รุนแรงกว่าที่หลายคนคิด ส่งผลกระทบต่อสุขภาพและเศรษฐกิจ เช่น น้ำท่วม การย้ายฐานการผลิต รวมถึงความปลอดภัยของอาหาร โดยวิทยากรยกตัวอย่างปัญหาป่าไม้ทำลายและการปนเปื้อนสารเคมีในผักผลไม้ และตั้งคำถามว่า "ใครจะช่วยยืนยันหน่อย ตีการันตีไปเลยว่า แบรนด์ของรามาธิบดี... ปลอดภัยเพราะผักผลไม้เนี่ยที่ได้มามันปลอดสารพิษ ตรวจมาแล้วสารพิษมันน้อย ทำยังไงในคนในรามาธิบดีและคนที่เกี่ยวข้องจะปลอดภัยจากอันนี้"
  • สังคมและสงคราม: ความขัดแย้งในระดับโลกและสงครามไซเบอร์ (cyber war/trade war) ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชน
  • แนวโน้มเทคโนโลยีดิจิทัลและชีวภาพ: การเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยี เช่น AI, Genomics, Telemedicine มีผลกระทบอย่างมหาศาลต่อ Healthcare Business วิทยากรกระตุ้นให้คิดว่า "รามาธิบดีอยู่ตรงไหนในห่วงโซ่ตรงนี้ ในฐานะของเจ้าของเทคโนโลยี หรือซื้อเทคโนโลยีเหล่านี้มาใช้" และความท้าทายในการบำรุงรักษาและพัฒนาเทคโนโลยีเหล่านั้นเอง
  • โครงสร้างประชากร (Aging Society/Birth Rate): สังคมผู้สูงอายุและการเกิดน้อยลงส่งผลกระทบต่อผลผลิตของประเทศและจำนวนแรงงานที่มีทักษะ วิทยากรเปรียบเทียบกับเวียดนามที่มีแรงงานหนุ่มสาวจำนวนมากและต้นทุนต่ำกว่า
  • Generation Gap: ความแตกต่างทางความคิดในแต่ละ Generation ทำให้การทำงานร่วมกันในองค์กรขนาดใหญ่เป็นความท้าทายในการสร้างความกลมกลืน (harmonize)

3. การบริหารจัดการเชิงระบบและการก้าวข้ามไซโล (Beyond Silos and System Thinking): วิทยากรเน้นย้ำถึงปัญหา "ต่างคนต่างอยู่ ต่างคนต่างทำ ความเป็นไซโล ซูเปอร์ไซโล" ที่เป็นอุปสรรคสำคัญในการพัฒนาและบูรณาการ โดยเสนอให้มองภาพรวมในระดับมหภาค (macro scale) และระดับโลก (global) เพื่อให้เห็นถึงผลกระทบต่อประเทศไทย และตั้งคำถามว่า "รามาธิบดีเป็นเนื้อเดียวกันหรือยัง เป็นคนละไซโล แต่ละภาควิชาสามารถบูรณาการกันได้หรือ ไม่"

4. สุขภาพคือความมั่งคั่งที่แท้จริง (Health is the real wealth): แนวคิดที่ว่าสุขภาพนำไปสู่ความมั่งคั่งและความยั่งยืน โดยยกตัวอย่างโรงพยาบาลเอกชนที่เติบโตได้ดีจากช่องว่างที่มีในระบบ

5. ความท้าทายและโอกาสในการจัดการทรัพยากรและเทคโนโลยีด้านสุขภาพ:

    • Longevity Health Span: การยืดอายุที่มีสุขภาพดีปราศจากโรค วิทยากรกระตุ้นให้พิจารณาถึงการจัดสรรทรัพยากรในการรักษาโรคที่ต้องใช้เงินมหาศาลแต่ยืดอายุได้เพียงช่วงสั้นๆ และความสามารถในการรวมการรักษาเหล่านี้ให้อยู่ในแพ็คเกจสิทธิประโยชน์ขั้นพื้นฐาน
    • Genomic, Precision, Predictive, Preventive Medicine: ความสำคัญของการใช้ข้อมูล Genomic ในงานวิจัยเพื่อประโยชน์ในอนาคต โดยวิทยากรชี้ให้เห็นว่า "ถ้าเราจะเอาข้อมูลของ Genomic 50,000 ที่เรามีหรือจะบวกในอนาคตเนี่ย มา correlate ให้เกิดประโยชน์ในแง่ของ Precision ก่อให้เกิดประโยชน์ในแง่ของ predictive prevened เราจะได้ประโยชน์ตรงนี้กับงานวิจัยอะไรอีกหลายอย่างในอนาคตทางใกล้ไหม"
    • Digital Health: การนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการเปลี่ยนแปลงระบบ Healthcare เช่น ระบบนัดหมาย Electronic Medical Record และความต่อเนื่องของการดูแลตั้งแต่ Wellness จนถึง Illness
    • Service Network และความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงบริการ: วิทยากรกระตุ้นให้คิดถึงการกระจายบริการทางการแพทย์เฉพาะทาง เช่น Bone Marrow Transplantation Unit หรือจำนวน Neurosurgeons ในแต่ละจังหวัด เพื่อลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงบริการ โดยกล่าวถึง "ถ้าเขาอยู่ยะลา แล้วหาดใหญ่ไม่มี เขาต้องมากรุงเทพฯ ถูกไหมครับ แล้วตรงเนี้ย มันเป็นการลดความเหลื่อมล้ำไหม"
    • Financial Sustainability ของระบบสุขภาพ: ปัญหาการขาดทุนของโรงพยาบาลภาครัฐจากโครงการ 30 บาทรักษาทุกที่ สะท้อนถึงความไม่ยั่งยืนทางการเงิน วิทยากรถามว่า "ถ้าสถานการณ์เป็นอย่างนี้ ประเทศไปได้ไหม" และเสนอให้พิจารณาการลงทุนในด้าน Preventive Health มากขึ้น
      • Economic Opportunity ในผลิตภัณฑ์สุขภาพ:Intellectual Property และ AI: โอกาสในการพัฒนา AI และสร้างทรัพย์สินทางปัญญา โดยยกตัวอย่าง AI สำหรับการแปลผลจอประสาทตา และ AI Chest X-ray
      • Cosmetics และ สมุนไพร: การส่งเสริมการผลิตในประเทศและการลดการนำเข้าสารสกัด
      • อาหาร: ความสำคัญของความปลอดภัยของอาหารและการสนับสนุนผลิตภัณฑ์ชุมชน โดยวิทยากรชวนคิด "ทำยังไงในคนในรามาธิบดีและคน ที่เกี่ยวข้องจะปลอดภัยจากอันนี้ แล้วมันมีอะไรที่จะบอก ถ้าเรายังไม่สามารถบอกนี้ได้เราจะบอกประชาชนของเราอย่างไร"
      • ATMP (Advanced Therapy Medicinal Products) และ Innovative Health Product: โอกาสในการวิจัยและผลิตยาชีววัตถุคล้ายคลึง (Biosimilars) และผลิตภัณฑ์นวัตกรรม เช่น Botulinum Toxin และ Sodium Hyaluronate โดยชี้ให้เห็นถึงตลาดขนาดใหญ่ที่ประเทศไทยยังสามารถเข้าถึงได้
      • National Essential Drug List (บัญชียาหลักแห่งชาติ): ความสำคัญต่อความมั่นคงและการเข้าถึงบริการยาของประชาชน
      • Learning and Teaching (การเรียนการสอน): การเป็น Academic Center ที่สามารถผลิตบุคลากรและองค์ความรู้ที่มีคุณภาพ
      • สถานการณ์การค้าด้านยาและเครื่องมือแพทย์ของไทย:การพึ่งพาการนำเข้า: ประเทศไทยนำเข้ายามูลค่าสูงถึง 200,000 ล้านบาทต่อปี และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยวิทยากรแสดงความกังวลว่า "วันข้างหน้าเราจะมีสตางค์ไปใช้ ถ้าวันนี้เราไม่ช่วยกันคิดที่จะทำในประเทศแล้วใช้ในประเทศ"
      • ความสามารถในการส่งออกที่จำกัด: ยาที่ผลิตในประเทศสามารถส่งออกได้เพียง 4 ประเทศหลัก คือ CLMV และส่วนใหญ่เป็นบริษัทต่างชาติที่ผลิตในไทยและส่งกลับประเทศตนเอง
      • การพึ่งพาสารตั้งต้นจากต่างประเทศ: ประเทศไทยผลิต Active Pharmaceutical Ingredient (API) ได้เพียง 1% โดยซื้อจากจีน 50% และอินเดีย 28% วิทยากรชี้ว่า "ไม่ ต้องทำอะไรหรอกครับ แค่ทะเลาะอะไรกับจีน เขาบอกเขาไม่ส่งยาให้ เขาโพสต์บน ออกไปตายไหม ยา นะครับ ไม่มี นี่เราตายแน่นอนเลย"
      • โอกาสจากยาหมดสิทธิบัตรและ Biosimilars: วิทยากรมองเห็น "หน้าต่างของโอกาส" ในการผลิตยา New Generic และ Biosimilars ที่กำลังจะหมดสิทธิบัตร ซึ่งเป็นตลาดมูลค่ามหาศาล โดยยกตัวอย่างเช่น Metylphenidate สำหรับโรคสมาธิสั้น และ Biosimilars ที่สถาบันอื่นเริ่มดำเนินการแล้ว แต่รามาธิบดียังไม่เริ่ม

6. การขับเคลื่อนร่วมกัน (Co-creation and Orchestration): วิทยากรเชิญชวนให้ทุกภาคส่วน โดยเฉพาะรามาธิบดี ซึ่งเป็น Academic Center ชั้นนำ "Forget the Line" หรือ "ละทิ้งเส้นแบ่ง" เพื่อทำงานร่วมกันเป็น "ทีมไทยแลนด์" เปรียบเสมือนวงออร์เคสตราขนาดใหญ่ที่นักดนตรีทุกคนต้องเล่นไปในทิศทางเดียวกันอย่างกลมกลืน เพื่อตอบสนองความต้องการของสังคมและสถานการณ์ วิทยากรกล่าวว่า "รามาธิบดี Orchestering Team มหิดล University Orchestering team ผมชวน นะครับ ชวนพวกเราว่าเรา คือส่วน นึงของ musician เราคือส่วนนึงของนักดนตรีในนี้ นักร้องในนี้ หรือแม้กระทั่งเป็นโคักตor หรือบางครั้งอาจจะต้องขึ้นมาเป็น leader หรือเป็น คักเตอร์ แทนอาจารย์ ทัน แทนอาจารย์ อาทิตย์ ในบางกรณี"

7. การตั้งคำถามเพื่อนำไปสู่การเปลี่ยนแปลง (Challenging Questions for Change): วิทยากรกระตุ้นให้ผู้เข้าร่วมประชุมทุกคนคิดถึงสิ่งที่จะลงมือทำหลังจากจบการบรรยาย โดยตั้งคำถามท้าทายว่า "เดินออก จากห้องประชุมนี้แล้วจะกลับไปเปลี่ยนแปลงอะไร" และย้ำถึงวิสัยทัศน์ของมหาวิทยาลัยมหิดล "ปัญญาแห่งแผ่นดิน" โดยตั้งคำถามว่า "ถ้าเรา เป็นปัญญาแห่งแผ่นดินเนี่ย วันนี้เราได้ชี้ นำประเทศนี้ด้วยเรื่องอะไร อย่างไรบ้าง ที่ทำให้ประเทศนี้ สังคมนี้ดีขึ้น" และ "เรา ได้ชี้ นำอะไรให้ กับประเทศนี้ สังคมนี้ ระบบสุขภาพนี้ ทั้งในแง่ของทางสังคมและทาง economy"


โดยสรุป การบรรยายครั้งนี้เป็นการกระตุ้นให้ผู้ฟัง โดยเฉพาะบุคลากรทางการแพทย์และผู้บริหารในระบบสุขภาพ ได้ตระหนักถึงความจำเป็นในการมองภาพใหญ่ ทำงานร่วมกันอย่างเป็นระบบ และใช้ศักยภาพด้านนวัตกรรมและวิชาการเพื่อตอบโจทย์ความท้าทายและคว้าโอกาสในการพัฒนา Healthcare Business ของประเทศไทยให้เกิดความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนอย่างแท้จริง.



















คู่มือการศึกษา: นวัตกรรมการจัดการในธุรกิจการดูแลสุขภาพ
ภาพรวมเนื้อหา

การบรรยายนี้มุ่งเน้นไปที่ "นวัตกรรมการจัดการ" ในบริบทของธุรกิจการดูแลสุขภาพ โดยวิทยากรคือ นายแพทย์ณรงค์ อภิกุลวณิต เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ซึ่งมีประสบการณ์เป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลหลายแห่งและเป็นผู้บริหารระดับสูงในกระทรวงสาธารณสุข เนื้อหาครอบคลุมการวิเคราะห์สถานการณ์และแนวโน้มของโอกาสและภัยคุกคามต่อระบบสุขภาพของประเทศไทยในมุมมองที่กว้างขวาง ทั้งด้านสังคม เศรษฐกิจ เทคโนโลยี และสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ยังเน้นย้ำถึงบทบาทของสถาบันการศึกษาอย่างรามาธิบดีในการเป็น "ปัญญาแห่งแผ่นดิน" และการมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาระดับประเทศด้วยการทำงานร่วมกันแบบบูรณาการ

คำถามทบทวนความเข้าใจ (Short-Answer Questions)
โปรดตอบคำถามต่อไปนี้ใน 2-3 ประโยค

  1. วิทยากรหลักในการบรรยายนี้คือใคร และปัจจุบันท่านดำรงตำแหน่งอะไร?
  2. หัวข้อการบรรยายที่ได้รับมอบหมายจากรามาธิบดีคืออะไร และวิทยากรได้ปรับหัวข้อให้เป็นอะไรเพื่อนำเสนอ?
  3. วิทยากรกล่าวถึง "ไซโล" และ "ซูเปอร์ไซโล" ในบริบทใด และทำไมจึงเป็นอุปสรรค?
  4. วิทยากรได้ยกตัวอย่างสถานการณ์ระดับโลกที่สำคัญ 3 ประการที่ส่งผลกระทบต่อระบบสุขภาพและการบริหารจัดการ มีอะไรบ้าง?
  5. ภัยคุกคามด้านสิ่งแวดล้อมใดที่วิทยากรเน้นย้ำว่ารุนแรงกว่าที่หลายคนคิด และเกี่ยวข้องกับประเทศไทยอย่างไร?
  6. วิทยากรเน้นย้ำถึงความสำคัญของ "ข้อมูล" อย่างไรในการจัดการสถานการณ์และแนวโน้ม?
  7. "Health is the real wealth" หมายความว่าอย่างไรในบริบทที่วิทยากรอธิบาย และเชื่อมโยงกับธุรกิจการดูแลสุขภาพอย่างไร?
  8. ข้อมูลเกี่ยวกับยาที่วิทยากรนำเสนอแสดงให้เห็นถึงปัญหาอะไรเกี่ยวกับสัดส่วนการนำเข้าและการผลิตในประเทศ?
  9. วิทยากรเสนอแนวคิด "ATMP" และ "Biosimilar" ว่าเป็น "หน้าต่างของโอกาส" อย่างไร และสถาบันใดบ้างที่เริ่มดำเนินการแล้ว?
  10. วิทยากรกระตุ้นผู้เข้าร่วมประชุมให้ทำอะไรเมื่อเดินออกจากห้องประชุมนี้ เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง?
เฉลยคำถามทบทวนความเข้าใจ
  1. วิทยากรหลักคือ นายแพทย์ณรงค์ อภิกุลวณิต ปัจจุบันท่านดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)
  2. หัวข้อที่ได้รับมอบหมายคือ "นวัตกรรมจัดการ Health Care Business" แต่วิทยากรได้ปรับเป็น "Thailand Opportunities in Healthcare" เพื่อให้ครอบคลุมโอกาสและภัยคุกคามต่อระบบสุขภาพของไทย.
  3. วิทยากรกล่าวถึง "ไซโล" และ "ซูเปอร์ไซโล" ในบริบทที่แต่ละหน่วยงานหรือแต่ละภาควิชาต่างคนต่างอยู่ ต่างคนต่างทำ ไม่สามารถบูรณาการกันได้ ซึ่งเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการบริหารจัดการและบรรลุเป้าหมาย.
  4. วิทยากรยกตัวอย่างสถานการณ์สำคัญ 3 ประการ ได้แก่ COVID-19/Emerging Infectious Disease, ความยากจน/ความไม่เท่าเทียม/ความเหลื่อมล้ำ, และ Climate Change.
  5. วิทยากรเน้นย้ำว่า Climate Change เป็นภัยคุกคามด้านสิ่งแวดล้อมที่รุนแรงกว่าที่หลายคนคิด โดยยกตัวอย่างผลกระทบต่อน้ำท่วมในกรุงเทพฯ และแม่น้ำยม รวมถึงปัญหาป่าไม้ทำลายต้นน้ำ.
  6. วิทยากรเน้นย้ำว่าข้อมูลเป็นสิ่งสำคัญในการบ่งชี้ว่าสิ่งใดคือภัยคุกคามและสิ่งใดคือโอกาส และมีมากน้อยเพียงใด เพื่อนำไปสู่การจัดลำดับความสำคัญและการวางแผนยุทธศาสตร์.
  7. "Health is the real wealth" หมายถึงสุขภาพคือความมั่งคั่งที่แท้จริง วิทยากรอธิบายว่าโรงพยาบาลเอกชนสามารถทำธุรกิจให้เจริญเติบโตได้จากช่องว่างในระบบ แสดงให้เห็นว่าสุขภาพสามารถนำไปสู่ความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจได้.
  8. ข้อมูลเกี่ยวกับยาแสดงให้เห็นว่ามูลค่าการใช้ยาในประเทศส่วนใหญ่เป็นการนำเข้า (ประมาณ 200,000 ล้านบาท) ในขณะที่การผลิตในประเทศและการส่งออกมีสัดส่วนน้อยกว่ามาก (ประมาณ 100,000 ล้านบาท) และมีแนวโน้มนำเข้าเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ.
  9. วิทยากรมองว่า ATMP และ Biosimilar เป็น "หน้าต่างของโอกาส" เพราะยาในกลุ่มชีววัตถุที่หมดสิทธิบัตรมีมูลค่าตลาดมหาศาล ซึ่งเป็นโอกาสในการผลิตเองในประเทศ โดยศรีราช จุฬาฯ และสถาบันจุฬาภรณ์เริ่มดำเนินการแล้ว.
  10. วิทยากรกระตุ้นให้ผู้เข้าร่วมประชุมหยิบกระดาษขึ้นมาเขียนว่า "จะกลับไปเปลี่ยนแปลงอะไร" หรือ "จะไปทำอะไรที่ทำให้เราเข้าใกล้เป้าหมายได้มากขึ้น" หลังจากจบการประชุมนี้.
คำถามปลายเปิดสำหรับการเขียนเรียงความ
  1. จากคำกล่าวของนายแพทย์ณรงค์ อภิกุลวณิต เรื่อง "Innovative Management" ที่ท่านได้ปรับมาเป็น "Thailand Opportunities in Healthcare" คุณคิดว่าแนวคิดนี้มีความสำคัญอย่างไรต่อการพัฒนาธุรกิจการดูแลสุขภาพของประเทศไทยในอนาคตอันใกล้?
  2. วิทยากรเน้นย้ำถึงปัญหาของ "ไซโล" และการขาดการบูรณาการในการทำงาน คุณคิดว่าสถาบันการศึกษาอย่างรามาธิบดีจะสามารถใช้บทบาท "ปัญญาแห่งแผ่นดิน" เพื่อลดความเป็นไซโลและส่งเสริมการทำงานร่วมกันในระบบสุขภาพของประเทศได้อย่างไร?
  3. นายแพทย์ณรงค์ได้นำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์การนำเข้าและส่งออกยา รวมถึงการผลิตเคมีภัณฑ์ตั้งต้นในประเทศไทย คุณวิเคราะห์ปัญหาและความท้าทายที่สำคัญจากข้อมูลนี้อย่างไร และเสนอแนวทางแก้ไขในระดับนโยบายหรือเชิงปฏิบัติได้อย่างไร?
  4. วิทยากรกล่าวถึง "Longivity Health Span" และการใช้ทรัพยากรจำนวนมากเพื่อยืดอายุผู้ป่วย คุณคิดว่าประเด็นนี้สร้างความท้าทายอะไรต่อระบบสุขภาพของประเทศ และสถาบันการศึกษาและหน่วยงานภาครัฐควรมีบทบาทอย่างไรในการกำหนดนโยบายที่สมเหตุสมผล?
  5. "Forget the line" เป็นแนวคิดที่วิทยากรสื่อสารเพื่อส่งเสริมการทำงานร่วมกัน คุณคิดว่าแนวคิดนี้สามารถนำไปปรับใช้ในบริบทขององค์กรหรือหน่วยงานที่คุณสังกัดอยู่ได้อย่างไร เพื่อขับเคลื่อนให้เกิด "Real Impact" ตามวิสัยทัศน์ของมหาวิทยาลัยมหิดล?
อภิธานศัพท์

  • Innovative Management (นวัตกรรมการจัดการ): แนวคิดหรือวิธีการใหม่ๆ ในการบริหารจัดการองค์กรหรือระบบ โดยเน้นการสร้างสรรค์ การปรับตัว และการใช้ประโยชน์จากนวัตกรรมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผล.
  • Health Care Business (ธุรกิจการดูแลสุขภาพ): กิจกรรมทางเศรษฐกิจทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการด้านสุขภาพ การผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ ยา และอุปกรณ์ต่างๆ รวมถึงการวิจัยและพัฒนา.
  • FDA (Food and Drug Administration - องค์การอาหารและยา / อย.): หน่วยงานภาครัฐที่มีหน้าที่กำกับดูแลความปลอดภัย ประสิทธิผล และคุณภาพของผลิตภัณฑ์สุขภาพต่างๆ เช่น ยา อาหาร เครื่องมือแพทย์ และเครื่องสำอาง.
  • Ramathibodi Hospital (โรงพยาบาลรามาธิบดี): โรงพยาบาลและสถาบันการศึกษาทางการแพทย์ในสังกัดมหาวิทยาลัยมหิดล.
  • Mahidol University (มหาวิทยาลัยมหิดล): มหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศไทยที่เน้นการเรียนการสอนและการวิจัยด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพ.
  • Silo / Super Silo (ไซโล / ซูเปอร์ไซโล): เป็นศัพท์เชิงเปรียบเทียบหมายถึงการทำงานแบบต่างคนต่างทำ หรือการแบ่งแยกแผนกหรือหน่วยงานออกจากกันอย่างชัดเจน ทำให้ขาดการประสานงานและการบูรณาการข้อมูล.
  • Thailand Opportunities in Healthcare (โอกาสของประเทศไทยในธุรกิจการดูแลสุขภาพ): แนวคิดที่วิทยากรใช้ในการบรรยาย โดยมุ่งเน้นการวิเคราะห์ศักยภาพและช่องทางที่ประเทศไทยสามารถพัฒนาและสร้างประโยชน์จากระบบสุขภาพ.
  • Social Impact (ผลกระทบทางสังคม): ผลลัพธ์ของการกระทำ โครงการ หรือนโยบายที่มีต่อสังคมและกลุ่มคนต่างๆ.
  • Economic Impact (ผลกระทบทางเศรษฐกิจ): ผลลัพธ์ของการกระทำ โครงการ หรือนโยบายที่มีต่อเศรษฐกิจ เช่น การเติบโตทางเศรษฐกิจ การสร้างงาน หรือมูลค่าการค้า.
  • Strategic Move (การเคลื่อนไหวทางยุทธศาสตร์): การตัดสินใจหรือการกระทำที่มีผลกระทบสำคัญและเป็นส่วนหนึ่งของแผนระยะยาวเพื่อบรรลุเป้าหมายที่กำหนดไว้.
  • Action Plan (แผนปฏิบัติการ): แผนงานที่มีรายละเอียดขั้นตอน การมอบหมายงาน และระยะเวลา เพื่อนำไปสู่การปฏิบัติจริง.
  • Ranking Criteria / Metric Criteria (เกณฑ์การจัดอันดับ / เกณฑ์ชี้วัด): มาตรฐานหรือตัวชี้วัดที่ใช้ในการประเมิน จัดลำดับความสำคัญ หรือเปรียบเทียบสิ่งต่างๆ.
  • COVID-19 Pandemic (การระบาดใหญ่ของโควิด-19): การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ที่แพร่กระจายไปทั่วโลก.
  • Emerging Infectious Disease (EID) (โรคติดเชื้ออุบัติใหม่): โรคติดเชื้อที่เพิ่งปรากฏขึ้นมาใหม่ในประชากร หรือโรคติดเชื้อที่มีอยู่เดิมแต่มีการเปลี่ยนแปลงในด้านอุบัติการณ์ ภูมิศาสตร์ หรือเจ้าบ้าน.
  • Climate Change (การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ): การเปลี่ยนแปลงระยะยาวในรูปแบบสภาพอากาศทั่วโลก หรือภูมิภาค ซึ่งรวมถึงภาวะโลกร้อน.
  • Pollution (มลพิษ): การปนเปื้อนของสิ่งต่างๆ ในสิ่งแวดล้อมที่ส่งผลเสียต่อคุณภาพชีวิตและสุขภาพ.
  • AI (Artificial Intelligence - ปัญญาประดิษฐ์): เทคโนโลยีที่จำลองความสามารถในการเรียนรู้ การคิด และการแก้ไขปัญหาของมนุษย์.
  • Predictive (เชิงคาดการณ์): การใช้ข้อมูลและแบบจำลองเพื่อทำนายเหตุการณ์หรือแนวโน้มในอนาคต.
  • Intellectual Property (IP) (ทรัพย์สินทางปัญญา): ผลงานสร้างสรรค์ของมนุษย์ที่กฎหมายให้การคุ้มครอง เช่น สิทธิบัตร ลิขสิทธิ์ เครื่องหมายการค้า.
  • Universal Health Coverage (UHC) (หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า): ระบบสุขภาพที่มุ่งให้ทุกคนสามารถเข้าถึงบริการสุขภาพที่จำเป็นได้โดยไม่ต้องประสบปัญหาทางการเงิน.
  • Antimicrobial Resistance (AMR) (ภาวะดื้อยาต้านจุลชีพ): ปรากฏการณ์ที่จุลชีพ เช่น แบคทีเรีย ไวรัส เชื้อรา พัฒนาความสามารถในการต้านทานยาที่เคยใช้ในการรักษาได้.
  • Primary Care (การดูแลสุขภาพปฐมภูมิ): การดูแลสุขภาพเบื้องต้นที่เข้าถึงได้ง่ายและต่อเนื่องในชุมชน มักเป็นจุดแรกที่ผู้ป่วยจะติดต่อกับระบบสุขภาพ.
  • Genomic (จีโนมิกส์): การศึกษาจีโนมทั้งหมดของสิ่งมีชีวิต รวมถึงโครงสร้าง หน้าที่ วิวัฒนาการ และการทำแผนที่ยีน.
  • Precision Medicine (การแพทย์แม่นยำ): แนวทางการรักษาพยาบาลที่ปรับให้เหมาะสมกับลักษณะเฉพาะของแต่ละบุคคล โดยพิจารณาจากพันธุกรรม สภาพแวดล้อม และวิถีชีวิต.
  • Predictive Medicine (การแพทย์เชิงพยากรณ์): การใช้ข้อมูลทางพันธุกรรมหรือข้อมูลอื่นๆ เพื่อคาดการณ์ความเสี่ยงต่อการเกิดโรคในอนาคต.
  • Preventive Medicine (การแพทย์เชิงป้องกัน): มาตรการที่มุ่งป้องกันการเกิดโรคหรือลดความรุนแรงของโรค.
  • Telehealth (โทรเวชกรรม): การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเพื่อให้บริการสุขภาพทางไกล.
  • Electronic Medical Record (EMR) (เวชระเบียนอิเล็กทรอนิกส์): บันทึกข้อมูลสุขภาพของผู้ป่วยในรูปแบบดิจิทัลที่ใช้ในสถานพยาบาลหนึ่งๆ.
  • Electronic Personal Record (EPR) (บันทึกสุขภาพส่วนบุคคลอิเล็กทรอนิกส์): บันทึกข้อมูลสุขภาพส่วนบุคคลในรูปแบบดิจิทัลที่ผู้ป่วยสามารถเข้าถึงและควบคุมได้.
  • Wellness (ภาวะสุขภาวะที่ดี): สภาวะของสุขภาพที่ดีและสมบูรณ์ทั้งทางกาย ใจ และสังคม.
  • Illness (ความเจ็บป่วย): สภาวะของร่างกายหรือจิตใจที่ไม่ปกติหรือไม่สบาย.
  • Service Network (เครือข่ายบริการ): ระบบการเชื่อมโยงและประสานงานของหน่วยงานหรือผู้ให้บริการต่างๆ เพื่อส่งมอบบริการ.
  • Bone Marrow Transplantation (การปลูกถ่ายไขกระดูก): กระบวนการทางการแพทย์ที่ใช้ในการรักษาโรคบางชนิดโดยการแทนที่ไขกระดูกที่เสียหายหรือเป็นโรคด้วยเซลล์ไขกระดูกที่มีสุขภาพดี.
  • Neurosurgeon (ศัลยแพทย์ระบบประสาท): แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการผ่าตัดรักษาโรคที่เกี่ยวกับสมอง ไขสันหลัง และระบบประสาท.
  • Financial Sustainability (ความยั่งยืนทางการเงิน): ความสามารถขององค์กรหรือระบบในการรักษาฐานะทางการเงินที่มั่นคงในระยะยาว.
  • Universal Health Coverage (UC) (หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า - ในบริบทไทยหมายถึงบัตรทอง 30 บาท): ระบบที่รัฐบาลไทยจัดให้ประชาชนเข้าถึงบริการสุขภาพได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายหรือค่าใช้จ่ายน้อยที่สุด.
  • Intellectual Property (IP) (ทรัพย์สินทางปัญญา): ผลงานสร้างสรรค์ของมนุษย์ที่กฎหมายให้การคุ้มครอง เช่น สิทธิบัตร ลิขสิทธิ์ เครื่องหมายการค้า.
  • ATMP (Advanced Therapy Medicinal Products): ผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ที่ใช้การบำบัดขั้นสูง เช่น ยีนบำบัด เซลล์บำบัด หรือวิศวกรรมเนื้อเยื่อ.
  • Biosimilar (ไบโอซิมิลาร์): ยาชีววัตถุที่คล้ายคลึงกับยาชีววัตถุต้นแบบที่ได้รับการอนุมัติแล้ว แต่ไม่ได้เป็นยาที่ถูกสร้างขึ้นโดยผู้ผลิตต้นแบบ.
  • National Essential Drug List (ยาบัญชีหลักแห่งชาติ): รายชื่อยาที่จำเป็นซึ่งระบุโดยรัฐบาล เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงยาพื้นฐานที่สำคัญได้.
  • Active Pharmaceutical Ingredient (API) (สารออกฤทธิ์ทางเภสัชกรรม): ส่วนประกอบทางชีวภาพของยาที่ออกฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาในร่างกาย.
  • Patent (สิทธิบัตร): สิทธิแต่เพียงผู้เดียวที่รัฐให้แก่ผู้ประดิษฐ์หรือผู้ออกแบบ เพื่อคุ้มครองการประดิษฐ์หรือการออกแบบของตน.
  • Generic Drug (ยาสามัญ): ยาที่ผลิตขึ้นมาหลังจากยาต้นแบบหมดอายุสิทธิบัตรแล้ว โดยมีส่วนประกอบและประสิทธิภาพเทียบเท่ากับยาต้นแบบ.
  • Value Chain (ห่วงโซ่คุณค่า): ชุดของกิจกรรมที่องค์กรดำเนินการเพื่อเพิ่มคุณค่าให้กับผลิตภัณฑ์หรือบริการ.
  • Supply Chain (ห่วงโซ่อุปทาน): เครือข่ายขององค์กร บุคคล เทคโนโลยี กิจกรรม ข้อมูล และทรัพยากรที่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนย้ายผลิตภัณฑ์หรือบริการจากผู้ผลิตไปยังผู้บริโภค.
  • R&D (Research and Development - การวิจัยและพัฒนา): กิจกรรมที่มุ่งเน้นการค้นพบความรู้ใหม่ๆ และนำความรู้นั้นไปสร้างผลิตภัณฑ์ กระบวนการ หรือบริการใหม่ๆ.
  • Community Product (ผลิตภัณฑ์ชุมชน): สินค้าหรือบริการที่ผลิตโดยชุมชนหรือกลุ่มคนในท้องถิ่น ซึ่งมักสะท้อนถึงภูมิปัญญาและเอกลักษณ์ของพื้นที่นั้นๆ.
  • Orchestrating (การประสานงาน / การจัดวง): การรวมและประสานงานกิจกรรมหรือองค์ประกอบต่างๆ ให้ทำงานร่วมกันอย่างกลมกลืนและมีประสิทธิภาพ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายร่วมกัน.
  • Proactive (เชิงรุก): การกระทำหรือการตอบสนองที่เกิดขึ้นล่วงหน้าเพื่อเตรียมพร้อมหรือควบคุมสถานการณ์ มากกว่าที่จะรอให้เหตุการณ์เกิดขึ้นแล้วค่อยตอบสนอง.
  • Cocreation (การร่วมสร้างสรรค์): กระบวนการที่สองฝ่ายหรือมากกว่านั้นทำงานร่วมกันเพื่อสร้างคุณค่าหรือผลลัพธ์.

Comments

Popular posts from this blog

Upright Fluorescence Microscope (update 24 Dec 2024)

ZEISS ZEN lite Free Imaging Software for Microscopy (update: 2025-05-21)